จากบล็อกก่อนหน้านี้ใน ทริปอยากจะไปก็ไป: ตอนเดินงงๆในตันซุ่ย ที่เราได้พาทุกคนไปเดินหลงทางในตัมซุ่ยกับพวกเรามาแล้ว คราวนี้ก็ถึงเวลาที่ทุกคนรอคอยยย *~รัวกลอง~* ได้เวลากินแล้วสิ!
หลังจากที่เราได้ลงจากเขาปราสาทแดงกันแล้วก็เดินทะลุถนน "Tamsui Old Street" พุ่งเข้าหาของกินเลยค่ะ เริ่มกันที่สิ่งที่ต้องลองเมื่อไปตัมซุ่ย ถ้าไม่กินคือไปไม่ถึง มันคือสิ่งเล็กๆที่เรียกว่า "อาเก่ย (阿給)" ร้านอาหารเกือบทุกร้านในตัมซุ่ยจะมีอาเก่ยขายค่ะ
(ถนน Tamsui Old Street)
พวกเราเจอร้านนี้เป็นร้านแรกเห็นคนเยอะๆเลยเดินดุ่ยๆเข้าไปเลยค่ะ ชื่อร้าน "正宗阿給老店" (เจิ่งจ่งอาเก่ยเหล่าเตี้ยน) แปลตรงๆก็ร้านอาเก่ยเก่าแก่ค่ะ คนเยอะมากถึงแม้จะเลยเวลาเที่ยงแล้วก็ตาม เมนูร้านนี้มีแค่หกอย่างเองค่ะ ในร้านจะมีป้ายอย่างใหญ่ติดอยู่พร้อมรูปแล้วชื่ออาหาร แต่อาหารแต่ละอย่างไม่รู้จักสักอย่างเลยสั่งกันมั่วๆ แต่ที่แน่ๆต้องมีอาเก่ยจานนึง
พอเขียนใบสั่งเสร็จแล้วยื่นให้พนักงานในชั้นนั้นค่ะ เรานั่งกันชั้นสองติดลิฟขนของเลยพนักงานเลยยืนรอเราอยู่ตรงนั้นแหละ พอยื่นให้พนักงานเสร็จก็จ่ายตังค่ะ เค้าจะฉีกคืนเบอร์ให้เรามาเก็บไว้คะ ส่วนเงินทอนเดี๋ยวมันจะกลับขึ้นมาพร้อมอาหารค่ะ
นั่งรอไปสักพักนึงอาหารก็จะถูกส่งขึ้นมาผ่านลิฟส่งอาหารค่ะ คราวนี้ถึงบางอ้อเลยว่าให้เบอร์กลับมาทำไม เพราะถ้าอาหารเรามากับลิฟตัวนั้นเค้าจะเรียกเบอร์เราให้ไปหยิบถาดค่ะ เรียกทีหลายๆเบอร์เพราะฉะนั้นต้องฟังดีๆนะคะ (ใครภาษาจีนไม่ได้แนะนำให้ไปนั่งใกล้ๆลิฟส่งอาหารค่ะ แล้วคอยยื่นให้เค้าดูว่าใช่ของเราหรือเปล่า) พอเรียกก็ไปต่อแถวเอาอาหารค่ะ ความรู้สึกอารมณ์นักเรียนต่อแถวเข้าโรงอาหารยังไงอย่างงั้น 555 ส่วนเราน้านนสเปเชียลค่ะ อยู่ใกล้ๆเค้าเสริฟให้สวยๆไม่ต้องไปยืนต่อ *สะบัดบ็อบสองที*
ลูกสีน้ำตาลที่มีวุ้นเส้นข้างในคืออาเก่ยค่ะ ตัวซอสจะออกเปรี้ยวๆหวานๆ โดยรวมก็คือฟองเต้าหู้ห่อวุ้นเส้นค่ะ กลับกลายเป็นว่าพวกเราชอบลูกสีขาวข้างบนมากกว่าค่ะ 555 ลูกสีขาวๆนี้ข้างนอกเป็นแป้งข้างในเป็นหมูสับค่ะซอสจะออกหวานๆเค็มๆกลมกล่อมดีค่ะ กานต์ว่ามันอร่อยที่ซอสเพราะตอนเอาอาเก่ยมากินกินซอสอันนี้แล้วมีความอร่อยเพิ่มขึ้นเยอะเลยค่ะ อิอิอิ มันก็ต้องลองมิกซ์แอนด์แม็ชดูเองบ้างเนอะ อีกเมนูนึงที่สั่งแต่ถ่ายไม่ทันคือลูกชิ้นค่ะ มันก็...ลูกชิ้นอ่ะ ไม่มีอะไรพิเศษเล้ยย แต่ถามว่าอร่อยไหม ก็อร่อยดีนะคะ ไม่ใช่ลูกชิ้นแป้งแบบบ้านเรา
หลังจากกินข้าวเสร็จก็ของหวานสิคะ แหม่~ถนนเส้นนี้ใครลดน้ำหนักห้ามเดินนะ อันตรายมากบอกเลอ ไม่ว่าจะไอสครีมเทอคิช ไอติมซอฟครีมหลากรส ชูครีม หรือของสตรีทฟู้ดมากมายนานาชนิดคอยเรียงรายให้คุณได้น้ำลายสอ ใครอยากหักห้ามใจก็เบนสายตาไปยังฟังซ้ายหันหน้าออกทะเลไปนะคะ จะได้ไม่ต้องเห็นของกิน 555
(คนทำไอสครีมเทอคิชขี้เล่นเหมือนกันทุกที่ กว่าจะได้กิน)
(ร้านนี้มีซอฟครีมให้เลือกประมาณ9รสค่ะ กรุ่มกริ่มกันไปเนอะ)
(อารมณ์ beard papa แต่เป็นไส้ไอสครีมค่ะ)
หลังจากที่อิ่มหน่ำสำราญกลิ้งไปกลิ้งมาอยูแถวริมน้ำแล้วก็ไปเดินเที่ยวกันต่อค่ะ กินอิ่มๆแล้วก็ต้องเดินเยอะๆให้มันกระทุ้งลงไปจริงไหมคะ... จะได้กินต่อได้อีก 555 พวกเราวางแผนเที่ยวจนถึงเย็นๆแล้วเดินกลับมาหาข้าวเย็นกินกันที่ตลาดกลางคืนแถวๆสถานีรถไฟค่ะ
ตลาดกลางคืนที่นี้สินค้าอาหารอะไรก็คล้ายๆกันกับที่อื่นๆนะคะ แต่ขนมที่นี้จะมีขึ้นชื่อหน่อยก็ตังเมกับถั่วตัดค่ะ ตังเมที่นี้กานต์ว่าแปลกดีค่ะ ไม่เหนียวหนึบหนับเท่าของไทย แล้วก็ไม่ได้หวานมากด้วยค่ะ ความหวานขึ้นอยู่กับไส้ที่เค้าผสมค่ะ(ชิมฟรีค่ะ ถ่ายรูปไม่ทัน) ส่วนถั่วตัดมีความอร่อยเพราะเค้าทำสดๆตรงนั้นแล้วใส่กล่องให้เลยค่ะ สดใหม่แน่นอน
(ตลาดกลางคืนเพื่อนรักนักช้อปและนักกิน)
(ลูกชิ้นปลาหมึกทอดของโปรดพี่ที่ไปด้วยกัน เจอเป็นต้องพุ่ง)
แต่ที่ชอบที่สุดในตลาดกลางคืนนี้คือขนมสอดไส้ถั่วแดง หรือ ฮ่งโต้วปิ่ง (紅豆餅) ค่ะ ทำสดๆไส้เยอะๆเนื้อถั่วแดงเน้นๆ ร้านนี้อยู่ตรงทางเข้าตลาดกลางคืนเลยค่ะถ้าเดินมาจากสถานีรถไฟคือต้องเจออันนี้แน่ๆไม่หลงชัว ส่วนตัวกานต์เป็นคนไม่ทานหวานมากค่ะ(แต่อ้วน...คือไร งืออ~) ซึ่งขนมสอดไส้ถั่วแดงที่ไทยที่เคยกินนั้นหวานจนปวดฟันเลยค่ะ แต่ของที่นี้อร่อยมากค่ะไม่ค่อยหวานเป็นรสชาติอารมณ์ถั่วแดงบดมากกว่าถั่วแดงกวนแบบของไทย แถมแป้งยังไม่หนามากด้วยค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้นที่ชอบสุดคือมันแค่ 10บาท! แม่เจ้ามันเอากำไรที่ไหน
(ไส้ถั่วแดงพูนๆเนื้อๆเน้นๆ)
(พนักงานนี้ก็ตาไวมาก ยกกล้องปุ๊ปโพสปั๊ป 555)
(ได้มาแล้วทิ้งไว้แป๊ปนึงนะคะ ให้แป้งมันเย็นลงนิดนึงจะได้กรอบๆ)
มื้อเย็นพวกเราไปกินกันที่ร้านข้างๆสถานีรถไฟค่ะ เดินหลงไปหลงมาหาร้านนั่งไม่ได้สักทีเลยตกลงว่าเดินไปเจอร้านไหนน่ากินเดินเข้าไปเลยนะไม่ต้องเช็คเรทติ้งละ เลยจบลงที่ร้านข้าวหน้ากระดูกหมูสไตล์ไต้หวันค่ะ ร้านนี้ชื่อ Hēidiàngúpái (黑店排骨) ค่ะ เมนูดูน่ากินหลายอย่างเลยค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องขออภัยจริงๆเพราะเมนูร้านนี้เค้าคิดเป็นชื่อเฉพาะตัวค่ะแปลออกมาก็งงกันเป็นไก่ตาแตก เลยจิ้มถามพนักงานว่ารูปในเมนูอันนี้คืออันไหนแล้วก็สั่งเลยค่ะ โชคดีมากเพราะอันที่สั่งเป็น signature ร้านนี้เลยค่ะ กระดูกหมูย่างซอสแล้วข้างล่างมีเต้าหู้ยี้มาด้วยอร่อยมากเลยค่ะ
(ไม่ลืมที่จะสั่งเต้าหู้ไข่เยี่ยวม้าของโปรดกานต์เอง)
และนี้ก็เป็นอันสิ้นสุดไดอารี่การกินในตัมซุ่ยค่ะ ไว้ถ้ามีโอกาสไปเที่ยวอีกจะมาอัพเดทให้นะคะ ส่วนใครที่อ่านมาถึงจุดนี้แล้วแต่ยังไม่ได้อ่านทริปหลงๆงงๆในตัมซุ่ยของกานต์ กดที่ลิ้งนี้ได้เลยค้าา ~ทริปอยากจะไปก็ไป: ตอนเดินงงๆในตันซุ่ย~